สำหรับอาชีพหมอก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่บ้านเรา ให้ความนับหน้าถือตาไม่แพ้กับพวกอาชีพรับราชการในสาขาอื่น ๆ ซึ่งถ้าใครที่เจอหมอที่มีจรรยาบรรณ และพร้อมสละเวลาของตัวเองในการรักษาคนไข้อย่างเต็มกำลังแล้วล่ะก็ ต้องบอกว่าคน ๆ นั้นก็โชคดีเป็นอย่างมาก เพราะมันก็มีหมอไม่กี่คนหรอกที่จะยอมทำอะไรแบบนี้ถ้าไม่ใช่ใจรักจริง ๆ
และวันนี้เราจะมาดูหน้าที่ของหมอแบบคร่าว ๆ กันกับเกมที่มีชื่อว่า ER Doctor ว่ามันจะยากอย่างที่คิดไหม

– ระบบ Gameplay
รูปแบบการเล่นของเกม ER Doctor ค่อนข้างเข้าใจได้ง่าย เพราะว่าจะมีการแนะนำตลอดตัวเกม ซึ่งทั้งหมดนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานของการเป็นหมอได้เลย โดยเกมนี้จะแบ่งออกเป็น 3 โหมด คือ
Dress up ในโหมดนี้น่าจะเป็นโหมดสั้นที่สุดแล้ว เพราะว่าจะเป็นการแต่งตัวให้กับหมอ โดยที่เราสามารถเลือกได้ตั้งแต่การสวมเสื้อกาวน์, หมวก, รองเท้า, หูฟัง, ปากกา ซึ่งเราจะได้เลือกฟรีอย่างละ 2 แบบ แต่ถ้าอยากเลือกใช้ส่วนที่เหลือก็สามารถดูวีดีโอเพิ่มได้
Pharmacy เป็นโหมดในการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในการรักษาคนไข้ ซึ่งเราจะได้รักษาฟรีแค่ 2 คน ถ้าหากอยากรักษาเพิ่มก็สามารถดูวีดีโอเพื่อปลดล็อกคนไข้คนอื่นได้ แต่ว่าในโหมดนี้เราจะเห็นเพียงแค่การลากอุปกรณ์ไปไว้ที่คนไข้ โดยที่ไม่ได้เห็นการรักษาแบบตัวคน
Treatment ส่วนโหมดนี้จะเป็นการรักษาแบบคนมานั่งตรงหน้า ซึ่งจะเห็นได้ชัดกว่าโหมดที่สอง เพราะว่าเราจะได้จัดเต็มกับการรักษาคนไข้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวัดอุณหภูมิ, การลดความร้อนด้วยถุงน้ำแข็ง, การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การวัดความดัน หรือว่าการแปะพลาสเตอร์ไปยังจุดที่เป็นแผล

– การออกแบบภาพกราฟิก และองค์ประกอบอื่น ๆ
ถึงแม้ว่าภาพในเกม ER Doctor จะมีการใช้ลายเส้นแบบเรียบง่าย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าตัวเกมจะไม่น่าเล่น เพราะว่ามันยังมีในส่วนของการเล่นที่ง่าย แล้วก็ยังสามารถปลดล็อกคนไข้อื่นมาเล่นเพิ่มเติมได้อีก แล้วตัวเกมก็ไม่ได้กินพื้นที่อะไรมากมายด้วย มันเลยทำให้เราไม่ต้องกังวลเลยว่าเครื่องเก่าจะเล่นได้ไหม

– สรุป
สำหรับเกม ER Doctor เรียกได้ว่าเป็นเกมการศึกษาหนึ่ง ที่จะเป็นการช่วยฝึกเหล่าคุณหมอในอนาคตได้เหมือนกัน เพราะว่าเราสามารถสอนเด็ก ๆ ให้รู้จักกับเครื่องมือต่าง ๆ ก่อนที่จะไปเรียนรู้ของจริงได้ แถมเราเองก็จะยังได้ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่หมอใช้อีกต่างหาก
#คีบตุ๊กตา #เกมตู้ #เกมอาร์เคด #ตู้คีบตุ๊กตา #โมเดล #ตู้คีบ #ReviewGame #ERDoctor