ใครว่าการจับแมวเป็นเรื่องง่าย งั้นขอท้าคนที่บอกแบบนั้นมาลองจับแมวให้หน่อย แต่ว่าที่จะให้จับเนี่ยไม่ใช่แมวจริงหรอกนะ เพราะจะมาให้จับแมวในเกม Tap the Cat ต่างหาก ขืนให้ไปจับแมวจริงถ้าหากไม่รู้ใจรับรองได้เลยว่ามีหน้าแหกแน่นอน

แต่บอกก่อนนะว่าภาพในเกมอาจจะไม่ค่อยสวย แล้วก็ไม่สมจริงเท่าไหร่ ใครที่หวังอยากเห็นแมวน่ารัก ๆ ก็อาจจะต้องไปเดินหาเอาข้างนอกก่อน
– ระบบ Gameplay

ต้องขอสารภาพตรงนี้เลยว่าในตอนแรก ผู้เขียนไม่สามารถจับรูปแบบการเล่นในเกม Tap the Cat ได้เลยแม้แต่น้อย เพราะว่ามันไม่มีการสอน หรือว่าการอธิบายใด ๆ ให้ได้รับรู้ และด้วยความที่ตัวเกมมีการจับเวลา แล้วก็มีคะแนนอยู่ด้านบนซ้าย แต่ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร เมื่อแมวตกลงมาผู้เขียนจึงเดาว่าให้กดไปที่ตัวแมว แต่ก็เจอคะแนนติดลบตัวละ 50 คะแนน ซึ่งบางครั้งกดไปก็จะมีหัวใจขึ้นแล้วได้คะแนน มันก็เลยทำให้รู้สึกงงว่ามันต้องไปเริ่มที่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้น ผู้เขียนจึงจบผลลัพธ์ด้วย You Lost ทุกรอบ จนกระทั่งเริ่มมาจับบางจุดได้ จึงทำให้รู้ว่าควรไปต่อยังไง

สรุปคือตัวเกม Tap the Cat ต้องการให้เราจับคู่แมวที่เหมือนกันเพื่อเก็บคะแนน โดยในแต่ละรอบก็จะมีเวลากับคะแนนที่ตั้งเป้าไว้ ซึ่งนั่นแหละเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องทำคะแนน ให้ได้ตามเป้าหมายก่อนที่เวลาจะหมดลง หากไม่สำเร็จก็หมายความว่าเราจะไม่สามารถผ่านไปยังด่านต่อไปได้
แต่ถ้าหากทำได้เราก็จะได้เจอกับด่านใหม่ที่มีอุปสรรคเข้ามาทดสอบอีก เช่น ก้อนอิฐที่คอยขวางไม่ให้แมวหล่นลงมา บวกกับความถี่ในการหล่นของแมว มันก็อาจจะทำให้เรารีบเกินไปจนทำให้กดพลาด และนั่นก็หมายถึงคะแนนที่เสียไป แล้วก็อาจส่งผลในตอนจบรอบด้วย
ส่วนใครที่ดูแล้วรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นเหมที่เหมาะกับเด็กมากว่า ก็แย้งตรงนี้เลยว่าถึงแม้มันจะดูไม่ค่อยสมจริง แต่ว่ามันก็มีความยากให้พอตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน ถ้าใครที่เคยเล่นเกมที่เกี่ยวกับการจับเวลา แล้วต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายจะรู้ดีว่ามันรู้สึกกดดัน เนื่องจากเราก็ต้องการที่จะเป็นผู้ชนะ และสำหรับคนที่สนใจในตัวเกม Tap the Cat ก็อยากให้ไปลองหามาเล่นกันดู หรือถ้าจะเอามาแข่งว่าใครเก่งกว่ากันในหมู่เพื่อนก็สนุกไปอีกแบบ
#คีบตุ๊กตา #เกมตู้ #เกมอาร์เคด #ตู้คีบตุ๊กตา #โมเดล #ตู้คีบ #ReviewGame #TaptheCat