ถ้าเอ่ยถึงชื่อภาพยนตร์เรื่อง Catch me if you can? หรือชื่อภาษาไทยว่าจับให้ได้ถ้านายแน่จริง หลายคนที่อยู่ในช่วงนั้นน่าจะรู้จักกันดี เพราะว่ามันมีคนดังอย่าง Leonardo Dicaprio ที่เข้ามารับบทพระเอกสุดหล่อสาวหลง แต่มีนิสัยฉ้อโกงอย่างที่สุดแถมยังแนบเนียนโดยที่ไม่มีใครจับได้อีกต่างหาก ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกสร้างมาจากเรื่องจริงบางส่วนด้วย
แต่การที่เราจะต้องมานั่งเครียดแบบนั้นมันคงจะไม่ดีแน่ งั้นเรามาลองเล่นเกม Catch if you can? คลายเครียดกันดูดีกว่า เพราะกติการการเล่นของมันแทบจะไม่มีอะไรที่ต้องทำความเข้าใจเลย
– ระบบ Gameplay
รูปแบบการเล่นในเกม Catch if you can? เป็นเกมง่าย ๆ ที่เรามีหน้าที่แค่จับลูกโป่งสีสันต่าง ๆ ที่ลอยไปมาแค่นั้น แต่การที่จะจับให้ได้จำนวนเยอะ ๆ ภายในเวลาที่กำหนด ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่เข้าใจตอนแรก เพราะเมื่อไหร่ที่เราพร้อมเล่นแล้วลูกโป่งจะลอยหนีด้วยความเร็ว เราก็จะต้องใช้ Mouse ไล่กดคลิกให้ทัน เพราะถ้าไม่อย่างนั้นแล้วตัวเกมจะมีข้อความการแจ้งเตือนความผิดพลาดของเรา แต่ถ้าเราสามารทำได้ถึงระดับที่กำหนด ก็จะทำให้เราไปเล่นยังด่านต่อไปได้
ส่วนเวลากับคะแนนที่เราทำได้จะแสดงอยู่ด้านบน แต่ทั้งนี้การเล่นเกมจะขึ้นอยู่กับความชอบของผู้เล่น เพราะไม่แน่ว่าบางครั้งการเล่นเกมแบบไม่มีอะไรก็เป็นเรื่องที่น่าเบื่อ หากเกมไหนไม่มีความท้าทายแต่มีการเพิ่มลูกเล่น ก็อาจทำให้ตัวเกมมีความน่าสนใจขึ้น หรือถ้าไม่มีลูกเล่นอะไรแต่มี Challenge ต่าง ๆ เข้ามาท้าทายก็ทำให้ตัวเกมน่าสนใจขึ้นได้เหมือนกัน
– การออกแบบภาพกราฟิก และองค์ประกอบอื่น ๆ
ภาพในเกม Catch if you can? มีความเป็นการ์ตูนที่มีการเอาตัวละครจาก Angry Bird มาใช้เป็นอุปสรรคขัดขวาง แต่มันก็ไม่ได้มี Effect อะไรที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่าง เพราะว่ามันก็จะลอยไปตามลูกโป่งที่มี ถ้าเกิดมันมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นอย่างเช่น การระเบิดเมื่อไปโดน หรือว่าการจบรอบทันทีก็เป็นอเดียที่น่าสนใจ เพราะมันจะมีความยากเพิ่มไปอีกระดับ
– สรุป
สำหรับใครที่อยากลองฝึกทักษะด้านความเร็ว Catch if you can? เป็นเกมที่ช่วยในเรื่องนี้ได้ แต่มันจะมากหรือน้อยก็ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือการเล่น ไม่แน่ว่าคนที่มีความเร็วสูงอาจจะทำ Score ได้มากกว่าปกติก็ได้ หรือถ้าจะลองเอาไปเล่นเกมแข่งสะสมคะแนนกันในยามว่างระหว่างเพื่อน หรือครอบครัวก็น่าสนใจดีเหมือนกัน
#เกมคอม #เกมออนไลน์ #เกมมือถือ #เกมPS4 #เกมPS5 #เกมฟรี #Catchifyoucan?
